ฟันปลอมคืออะไร?

ฟันปลอมคือฟันที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนฟันธรรมดาที่หายไปหรือด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ฟันที่แตกร้าว, ฟันบิ่นหรือมีปัญหาสุขภาพ เป็นต้น ฟันปลอมสามารถทำจากวัสดุต่าง ๆ ได้รวมถึงเซรามิก, โลหะ, พลาสติก เป็นต้น การสร้างฟันปลอมจะใช้เทคนิคและวัสดุทางทันตกรรมในการสร้างให้เหมือนฟันธรรมดาในรูปร่างและหน้าตา เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบายและสวยงามเมื่อใช้งาน

ฟันปลอมมักจะติดตั้งโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้และต้องดูแลรักษาเอาไว้เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากมีการสัมผัสกับอาหารและการเคลื่อนไหวของปากตลอดเวลา การดูแลรักษาฟันปลอมถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ยืดอายุการใช้งานของฟันปลอมให้ได้นานที่สุด โดยต้องแปรงฟันปลอมและฟันธรรมดาเช่นกัน และไปตรวจรักษากับทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพของฟันปลอมและป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในระยะยาวเป็นต้น

ฟันปลอมมีกี่ประเภท?

ฟันปลอมมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือ
1.ฟันปลอมแบบถอดได้ เช่น ฟันปลอมที่ใส่ทั้งปาก, ฟันปลอมบางส่วนที่มีตะขอเกี่ยวสามารถถอดเข้าออกได้
2.ฟันปลอมแบบติดแน่น เช่น ครอบฟัน, สะพานฟัน, วีเนียร์, รากฟันเทียม

 

ฟันปลอมทำมาจากอะไรบ้าง?

1.ฟันปลอมเเบบถอดได้ (Temmporary plate)
ตัวฐานมีทั้งเเบบที่ทำจากพลาสติกหรืออะครีลิก เเละฐานเเบบโลหะ

  • แบบฐานพลาสติก จะมีการใช้เบื้องต้นกับคนไข้ที่ยังไม่เคยใส่ฟันปลอม เพื่อช่วยในช่วงระยะเวลาที่ต้องมีการปรับตัวว่าใช้งานได้ถนัดหรือไม่
  • เเบบโลหะจะบางเเละเเนบกับเหงือกได้ แบบนี้จะช่วยทำให้คนไข้รู้สึกรำคาญน้อยกว่าเเบบฐานพลาสติกเเละมีความทนทานมากกว่า

 

2.ฟันปลอมเเบบติดเเน่น (FIXED DENTURE)

  • แบบโลหะทั้งซี่ เหมาะกับใช้ในฟันตำแหน่งบดเคี้ยว
  • แบบพลาสติกทั้งซี่ เหมาะกับการใส่ชั่วคราว ช่วงที่รอให้แผลถอนฟันหายดีและป้องกันใบหน้าไม่ให้ผิดรูป
  • แบบผสม เช่น เซรามิก ฐานโลหะพอกด้วยพอสเลน เหมาะกับบริเวณฟันหน้าที่เน้นความสวยงามเป็นธรรมชาติจนดูไม่ออกว่าเป็นฟันปลอม

 

ทำไมต้องใส่ฟันปลอม?

1.ฟันแตกหรือหลุดออกมา: เมื่อฟันธรรมดาแตกเนื่องจากอุบัติเหตุ หรือเหตุสาเหตุอื่น ๆ คุณจำเป็นต้องใส่ฟันปลอมเพื่อแทนที่ฟันที่สูญเสียเพื่อให้สามารถกัดและป้องกันปัญหาทางทันตกรรมอื่น ๆ ได้
2.รักษาสุขภาพเรื่องทันตกรรม: การใส่ฟันปลอมสามารถช่วยรักษาสุขภาพภายในช่องปากและทางทันตกรรมโดยป้องกันการอักเสบของเหงือกและการเสียสมดุลของรูปหน้าได้
3.เพื่อความสวยงามและความมั่นใจ: ฟันปลอมสามารถช่วยปรับแต่งรูปร่างและสีของฟันเพื่อให้สวยงามและคล้ายกับฟันธรรมดามากที่สุดได้ ซึ่งสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นใจให้กับคุณได้
4.ประสิทธิภาพในการกัดและเคี้ยวอาหารอย่างสะดวก: การใส่ฟันปลอมที่เหมาะสมช่วยให้คนสามารถกัดและเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและส่งเสริมสุขภาพมากยิ่งขึ้น
5.ความชัดเจนในการพูดและสื่อสาร: การมีฟันที่สมบูรณ์ช่วยให้คนสามารถพูดและสื่อสารได้อย่างชัดเจนและมีความคล่องตัว

สำหรับผู้ที่ต้องใส่ฟันปลอมหรือไม่นั้น การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็นของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาฟันในกรณีที่ต้องใส่ฟันปลอมหรือการแก้ไขปัญหาทันตกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

ถ้าไม่ใส่ฟันปลอม มีผลเสียอย่างไรบ้าง?

หากคนไข้ สูญเสียฟันไปโดยเหตุผลต่าง ๆ หรือ ได้รับการถอดฟันเเล้วปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างฟัน จะมีผลเสียตามมาดังนี้

  • ฟันข้างเคียงของซี่ที่ถูกถอนไปจะเกิดการล้มหรือเอียงเข้าเข้ามาบริเวณช่องว่าง
  • มีผลต่อฟันคู่สบที่ไม่ตรงกัน เกิดการกระเเทกขณะเคี้ยวอาหาร- ปัญหาการเคี้ยวอาหารข้างเดียว
  • มีเศษอาหารติดที่ซอกฟันได้ง่าย ทำให้เกิดฟันผุหรือเหงือกอักเสบตามมาได้

 

ขั้นตอนทำฟันปลอมเป็นอย่างไร

1. ทันตแพทย์จะสอบถามประวัติของคนไข้และเริ่มการตรวจช่องปาก ถ่ายรูป X-ray พิมพ์แบบจำลองช่องปากของคนไข้
2. ทันตแพทย์จะทำการตรวจการเรียงตัวของฟันว่ามีการผิดรูปหรือไม่ และจะให้คนไข้เลือกสีฟันที่ใกล้เคียงกับฟันเดิม เเละสร้างฟันปลอมขึ้นมาบนแบบจำลองนั้น เพื่อให้ได้รูปฟันที่สวยงาม ขนาดพอดีเพื่อใส่ในช่องปากของคนไข้ และเพื่อให้มีการสบฟันเคี้ยวที่ถูกต้อง
3. ทันตแพทย์จะทำการใส่ฟันปลอมเเละแก้ไขตำแหน่งที่เกิดการกดเจ็บของคนไข้ ซึ่งในช่วงระหว่างที่มีการทำฟันปลอม

ทันตแพทย์จะนัดพบคนไข้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งรูปแบบของระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของฟันปลอม โดยหลังจากใส่ฟันปลอมเรียบร้อยแล้ว คนไข้อาจต้องกลับไปพบทันตแพทย์ในช่วงเดือนแรก เพื่อปรับหรือตกแต่งฟันปลอมเพิ่มเติมให้พอดีกับช่องปากและใช้ชีวิตสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

ฟันปลอมดูแลรักษาอย่างไร?

การดูแลฟันปลอมโดยทั่วไปแล้วจะใช้การดูแลรักษาโดยการถนอมอายุการใช้งานเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและต่อเนื่อง โดยแบ่งการดูแลตามประเภทของฟันปลอมได้ดังนี้

การดูเเลฟันปลอมเเบบถอดได้

  • ไม่กัดของแข็งและไม่รับประทานอาหารขบเคี้ยวที่เหนียว เพื่อไม่ให้ฟันปลอมทำงานหนักและเพื่อไม่ให้ฟันปลอมหลุดออกมาตอนเคี้ยว
  • เมื่อถึงเวลาหลังมื้ออาหารควรถอดออกมาล้างให้สะอาด และใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดเศษอาหารออกให้หมด
  • ระวังอย่าทำฟันปลอมหล่น เพราะพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของฟันปลอมอาจแตกหักได้
  • ห้ามใช้ยาสีฟันทำความสะอาดฟันปลอมเด็ดขาดเพราะจะทำให้ฟันปลอมสึกได้
  • ใช้เม็ดฟู่เเช่ฟัน เพื่อทำความสะอาดฟันปลอมเเละกำจัดเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่ อาทิตย์ละครั้ง
  • ก่อนนอนควรถอดแช่น้ำ เพื่อคงรูปร่างของฟันปลอมไว้ให้สมบูรณ์ ห้ามเก็บฟันปลอมในที่เเห้งเพราะจะทำให้ฟันปลอมบิดได้ซึ่งจะทำให้ใส่ฟันปลอมได้ไม่สนิทกับเหงือกเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นควรระวังตรงนี้ให้ดี

 

การดูเเลฟันปลอมเเบบติดเเน่น

  • ดูเเลรักษาเหมือนฟันธรรมชาติทั่วไปตามปกติโดยการแปรงฟันเน้นบริเวณคอฟัน เหงือก และใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน
  • เข้ารับการตรวจเช็คตามที่ทันตแพทย์นัดเป็นประจำ
Share it :

จองคิวพบคุณหมอ