การจัดฟันแบบ Invisalign จะเป็นการจัดฟันที่มีความเข้ารูปง่ายกว่าการจัดฟันใสแบบทั่วไปเพราะการจัดฟันใส Invisalign จะมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสแกนระบบ 3 มิติ (3D) ในการทำวัสดุเพื่อปัญหาฟันของผู้จัดฟันโดยเฉพาะ และจะเป็นชนิดพิเศษกว่าแบบใสทั่วไป เพราะจะเป็นการพิมพ์ตามลักษณะเฉพาะบุคคล ในการนำฟันไปสแกนเพื่อทำการสั่งผลิตที่จัดฟันใส Invisalign ให้กับผู้ที่จัดฟัน ซึ่งจะทำให้มีความเนียนกว่าการจัดฟันใสทั่วไปเพราะจะครอบเข้าพอดีกับตัวฟันทำให้สามารถเกิดการจับผิดได้ยากกว่า
อีกทั้งการจัดฟันแบบ Invisalign จะมีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างฟันของผู้จัดฟันให้อยู่เป็นแนวดี สวยงาม แม่นยำ ได้อย่างรวดเร็ว และยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการจะประหยัดเวลาในการจัดฟันและต้องการให้ฟันนั้นเกิดการเข้าที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีระยะเวลาในการจัดฟันต่างจากการจัดฟันแบบโลหะยึดติดทั่วไปเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถดูแลรักษาง่าย เพราะสามารถถอดออกมาทำความสะอาดและทำให้สุขภาพในช่องปากดูดีเหมือนเดิมห่างไกลปัญหากลิ่นปากและเศษอาหารเกาะตามซอกฟันอีกด้วย
จัดฟันใส INVISALIGN มีกี่แบบ มีกี่ประเภท
การจัดฟันใส INVISALIGN มี 3 แบบดังนี้
1.INVISALIGN EXPRESS จัดฟันใสอินวิสไลน์ เอ็กซ์เพรส
จัดฟันใส INVISALIGN EXPRESS จะเป็นการจัดฟันที่มีจำนวนชุดเครื่องมือจัดฟัน 7 ชุด เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีความผิดปกติของการเรียงตัวของฟันเพียงเล็กน้อย หรือผู้ที่มีการคืนกลับของฟันภายหลังจากการจัดฟัน เนื่องจากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ ทำให้เกิดปัญหาฟันเคลื่อนที่เล็กน้อย การจัดฟันใสรุ่น เอ็กซ์เพรสจะตอบโจทย์กับคนไข้ที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อย
2.INVISALIGN LITE จัดฟันแบบใส อินวิสไลน์ ไลท์
การจัดฟันแบบใส INVISALIGN LITE จะเป็นการจัดฟันที่มีจำนวนเครื่องมือจัดฟันเพียง 14 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นการจัดฟันที่เหมาะกับคนไข้ที่มีภาวะฟันห่าง ฟันซ้อนเก ระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเพียงเท่านั้น
3.INVISALIGN FULL
การจัดฟันแบบ INVISALIGN FULL จะเหมาะกับคนไข้ที่ฟันเกิดการซ้อนเกเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อนหรือไม่เคยเลย เพราะในการจัดฟันในชุดนี้จะต้องมีชุดเครื่องมือมากกว่า 14 ชุดขึ้นไป ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบได้อย่างครอบคลุม
ข้อดี จัดฟันแบบใส INVISALIGN
1.ช่วยทำให้สุขภาพฟันและเหงือกดีขึ้นได้ เนื่องจากการจัดฟันที่ถูกต้องจะทำให้ฟันและเหงือกบริเวณรอบ ๆ ฟันเข้าที่ได้อย่างเหมาะสม
2.ช่วยในการทำความสะอาดง่ายขึ้น เพราะทำให้สามารถแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ จึงช่วยทำให้ลดปัญหาโรคฟันผุและโรคเหงือกได้
3.มีรอยยิ้มที่มีความสวยงาม เพราะการจัดฟัน invisalign เป็นการใส่วัสดุที่เป็นพลาสติกใส เทคโนโลยี SmartTrack ยืดหยุ่นได้ดี โค้งรับกับขอบเหงือก จึงแทบมองอุปกรณ์จัดฟัน เหมาะกับคนที่ต้องการจัดฟันแต่กังวลเรื่องเหล็กดัดฟันในปากและต้องการใช้ชีวิตในการพบปะผู้คนตามปกติ เช่น ดารา นักแสดง นักร้อง
4.ตัวอุปกรณ์สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย ทำให้คนไข้ดูแลฟันได้สะดวกมาก ๆ ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ จึงช่วยลดปัญหาโรคฟันผุและโรคเหงือกได้
5.ลดอาการปวดฟันแบบเดิม และยังลดอาการบาดเจ็บจากแผลที่เกิดจากลวดเหล็กจัดฟันข่วนกระพุ้งแก้มหรือบาดเหงือก เป็นต้น
6.การจัดฟันแบบ Invisalign ช่วยวางแผนการจัดฟันแบบ digital ที่แสดงระยะเวลาในการรักษาที่ชัดเจน มากกว่าการจัดฟันแบบอื่น
ข้อเสียของการจัดฟันใส INVISALIGN
1.ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันในรูปแบบอื่น การจัดฟันใส INVISALIGN จึงเหมาะกับผู้ที่มีฐานะการเงินที่ดีนั้นเอง
ขั้นตอน จัดฟัน INVISALIGN
1.เข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการประเมินปัญหาและสแกนฟันและทำการพิมพ์แบบฟันด้วยการสแกนภาพ 3มิติ และเก็บภาพเอกซเรย์ รวมไปถึงการพิมพ์ฟัน ด้วยรูปแบบการสแกน 3 มิติเพื่อเป็นข้อมูลในการรักษาโดยขั้นตอนนี้จะมีความแตกต่างกันตามรูปแบบลักษณะของฟันที่คนไข้มี
2.คุณหมอจะวางแผนการรักษา ร่วมกับบริษัท Invisalign ที่อเมริกา และนัดคนไข้มาเพื่อดูแผนการรักษาที่จะเกิดขึ้น
3.Invisalign ของคนไข้ถูกส่งถึงคลินิก
4.มาพบทันตแพทย์ตามวันนัด เพื่อใส่ เครื่องมือจัดฟันใส Invisalign โดยคนไข้จะต้องสวมทุกวัน วันละ 20-22 ชั่วโมง และเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์โดยประมาณ
5.เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดทุก ๆ 2 เดือน หรือตามที่แพทย์นัด
6.จัดเสร็จฟันเรียงสวย ช่วยเพิ่มความมั่นใจ แต่จำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันฟันล้มทุกระยะต่อไป





