ฟอกสีฟันคืออะไร?

การฟอกสีฟัน (teeth whitening) คือกระบวนการที่ใช้สารเคมีหรือเทคนิคพิเศษ เช่น Cool Light LED เพื่อลดความเข้มของสีฟันและทำให้ฟันดูขาวขึ้น การฟอกสีฟันมักถูกนำมาใช้เพื่อลดความเหลืองบนผิวฟัน
โดยการฟอกสีฟันสามารถทำได้ในสองวิธีหลักดังนี้
1.การฟอกสีฟันในคลินิก (Teeth Whitening)
ในกรณีนี้สามารถพบกับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฟอกสีฟัน การใช้สารเคมีเข้มข้นหรือเทคนิคการใช้แสงฟอกสีฟัน Cool Light LED จะทำให้ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดีในเวลาที่รวดเร็ว กระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
2. การฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Bleaching)
ในกรณีนี้แพทย์จะให้แผนการรักษาและสามารถให้คุณใช้สารเคมีเพื่อทาบนอุปกรณ์และแปะบนฟัน หรือคุณอาจจะต้องทาสารเคมีนี้บนฟันเองตามคำแนะนำของทันตแพทย์ กระบวนการนี้จะใช้เวลานานกว่าการฟอกสีฟันในคลินิก อาจใช้เวลาไม่กี่วันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
การฟอกสีฟันมักจะถูกใช้เพื่อลดความเข้มสีฟันที่เกิดจากสิ่งต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่, การดื่มกาแฟ อย่างไรก็ตามการฟอกสีฟันอาจมีผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับสภาวะของฟันและสารเคมีที่ใช้ และไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันสำหรับทุกคน ควรปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน

 

ทำไมต้องฟอกสีฟัน?

1.เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
การฟอกสีฟันสามารถทำให้ฟันดูขาวและสะอาดมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและความเป็นที่สนใจของสายตาผู้อื่นได้มากขึ้น
2. ลดความเป็นอุปสรรคในการสื่อสาร
การฟอกสีฟันอาจช่วยลดความรู้สึกขาดความมั่นใจในการสื่อสาร เพราะมันทำให้ฟันดูสะอาดและน่ามอง
3. แก้ฟันเหลืองเนื่องจากสิ่งที่บริโภค
การสูบบุหรี่, การดื่มกาแฟ, การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม, และการบริโภคอาหารที่มีสารที่สร้างเสี่ยงต่อความเข้มสีของฟัน อาจทำให้ฟันดูเหลืองสีหมองลง การฟอกสีฟันจึงช่วยลดความเหลือง ความหมองคล้ำจากสิ่งเหล่านี้
4. เพื่อปรับลุคให้น่าสะอาดมากยิ่งขึ้น
การฟอกสีฟันในคลินิกสามารถให้ผลลัพธ์ในเวลาเร็วและมั่นคง ดังนั้นผู้ที่สนใจอาจต้องการทำการฟอกสีฟันเพื่อปรับปรุงลุคของพวกเขาในระยะเวลาที่มีเหตุการณ์ในชีวิตที่ต้องดูดี เช่นในการเตรียมพร้อมสำหรับงานสำคัญหรืองานแต่งงานเป็นต้น
5. เพื่อรักษาสุขภาพช่องปาก
บางกรณีการฟอกสีฟันอาจช่วยลดความเข้มสีของฟันที่เกิดจากโรคหรือการใช้ยาที่ทำให้สีของฟันหมองลง
ควรทราบว่าการฟอกสีฟันมีข้อจำกัดและควรทำโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพและปรับปรุงการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสมสำหรับคุณ

 

ฟอกสีฟัน ทำให้ฟันขาวได้อย่างไร?

การฟอกสีฟันในคลินิกทันตกรรมหรือการฟอกสีฟันที่บ้าน จะใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นที่สามารถใช้ในกระบวนการฟอกสีฟันนี้ ซึ่งสารเคมีเหล่านี้มักมี hydrogen peroxide หรือ carbamide peroxide เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสารเคมีจะเข้าสู่ผิวฟันและยับยั้งการสร้างสารที่ทำให้เกิดความเข้มสีของฟัน โดยทั่วไปสารเคมีนี้จะถูกใช้พร้อมกับแสง Cool Light LED เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง

 

ขั้นตอนการฟอกฟันขาวที่คลินิกทันตกรรม มีอะไรบ้าง

1.ทันตแพทย์จะต้องทำการตรวจดูช่องปาก และดูประวัติคนไข้โดยละเอียด จากนั้นจะทำการเปรียบเทียบเฉดสีของฟันก่อนจะมีการฟอกสีฟัน
2.เมื่อตรวจแล้วหากสุขภาพช่องปากไม่สะอาดแพทย์จะให้ขูดหินปูน ขัดฟัน หรืออุดฟันก่อนได้รับการฟอกสีฟัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
3.ทันตแพทย์จะทาน้ำยาเพื่อปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟันที่จะมีการฟอกสีฟัน และให้คนไข้สวมแว่นตาพิเศษเพื่อป้องกันสายตาขณะทำการฟอกฟันขาว
4.หลังจากฟันได้รับการเป่าแห้งแล้ว ทันตแพทย์จะทำการป้ายน้ำยาฟอกสีฟันลงบนฟัน
5.ทันตแพทย์จะใช้ไฟ Cool light ในการกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน เพราะแสง LED จะทำให้น้ำยาฟอกสีฟันทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
6.ทันตแพทย์จะล้างน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก และทำการเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟันเพื่อให้คนไข้ได้เห็นความแตกต่างเพิ่มมากยิ่งขึ้น

 

สิ่งที่ห้ามทำหลังฟอกสีฟัน

1.งดอาหารรสจัด รสเปรี้ยว รสเผ็ด ประมาณ 1 สัปดาห์
2.งดอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความร้อนจัดหรือเย็นจัด หากมีอาการเสียวฟัน
3.งดอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบบนสีฟันได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ไวน์แดง เครื่องดื่มผสมสีอาหาร และงดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์ ซึ่งหากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเข้มให้ใช้หลอดในการดื่มและกลืนในทันทีที่ลดสีที่จะไปเกาะสีฟันที่ฟอกมา

 

ดูแลตนเองอย่างไรหลังฟอกสีฟัน

วิธีที่จะสามารถช่วยรักษาความขาวให้อยู่ได้นานมากขึ้นนั้นคือการรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด
1.ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือการแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้งจะช่วยให้ฟันขาวสะอาดมากยิ่งขึ้น
2.ทำความสะอาดฟันด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง หรือตามสะดวก
3.บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากก่อนนอนทุกวัน ด้วยการกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที
4.งดกินหรือดื่มหลังบ้วนปากและแปรงฟัน
5.พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อตรวจเช็กสุขภาพฟัน

Share it :

จองคิวพบคุณหมอ