การตัดเหงือกเป็นวิธีที่ทำเพื่อทำการรักษาร่วมไปกับการทำทันตกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดแต่งเหงือกหลังจากการจัดฟัน การครอบฟัน การรักษารากฟัน หรือช่วยแก้ปัญหากับคนไข้ที่มีเหงือกเยอะ เกิดอาการเหงือกบวม การอุดฟันต่าง ๆ ซึ่งเหงือกภายในปากนั้นจะมีเท่ากันขึ้นอยู่กับฟันแต่ละซี่ อีกทั้งเหงือกยังสามารถคลุมฟันมากเกินไป ทำให้คนไข้หลาย ๆ คนที่มีปัญหาในการรับประทานอาหารไม่สะดวก หรืออาจรวมไปถึงบุคคลที่ทำการศัลยกรรมปากกระจับที่เวลายิ้มจะทำให้เห็นเหงือกเยอะจนเกินไป โดยการตัดเหงือกนั้นเป็นวิธีการแก้ปัญหาให้กับคนไข้ในการช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม เพราะการตัดเหงือกจะทำให้ฟันของคนไข้ดูยาวขึ้น และเวลายิ้มจะไม่เห็นเหงือกมากเกินไปทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นนั้นเอง
การตัดเหงือกมีกี่วิธี?
การตัดเหงือกมี 2 วิธีด้วยกัน คือ
1.ตัดเหงือกด้วยใบมีด
วิธีนี้จะเป็นการตัดขอบเหงือกออกด้วยวิธีทางการแพทย์ดังเดิม ด้วยการใช้มีด (Blade) ที่ทันตแพทย์จะทำการตัดเหงือกคนไข้ที่เหงือกมีส่วนเกินออกตามร่องแนวฟัน วิธีนี้ถือว่าได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยวิธีนี้ถือเป็นวิธีการผ่าตัดที่ยังคงต้องใช้การพักฟื้นหลังทำอีกทั้งยังจำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอรวมไปถึงยังต้องกลับมาตัดไหมตามคำสั่งของแพทย์อีกด้วย
2.ตัดเหงือกด้วยระบบไฟฟ้า หรือ ตัดเหงือกด้วยเลเซอร์
อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ การตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ วิธีนี้จะช่วยในการควบคุมการผ่าตัดได้เหงือกของคุณได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสร้างมีอาการเจ็บที่น้อยกว่า แผลน้อยกว่า เหงือกไม่ช้ำ กว่าการผ่าตัดด้วยเทคนิคใบมีด รวมไปถึงยังมีภาวะแทรกซ้อนตามมาที่อาจน้อยกว่าการใช้ใบมีดผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน แต่ยังควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หลังการผ่าตัดเพื่อให้แผลหายไวมากยิ่งขึ้น
เทคนิคไหนที่คนไข้ส่วนใหญ่นิยมทำ?
1.การตัดเหงือกธรรมดา (Gingivectomy)
วิธีนี้เป็นวิธีที่ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือตัดเหงือกส่วนเกินออก เพื่อปรับแนวเหงือกให้เรียบสวย เทคนิคนี้จึงเหมาะกับคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาทางช่องปากมากนักเพียงแต่มีเหงือกเยอะ และมีเหงือกงอกมาคลุมตัวฟันมากเกินไป เวลายิ้มจึงเห็นเหงือกมากกว่าคนทั่วไป ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจได้ แต่วิธีนี้อาจทำให้เหงือกที่ตัดกลับมาสู่ระดับขอบเหงือกเดิมก่อนที่ตัดได้เช่นกัน
2.การตัดแต่งเหงือกกรอกระดูกฟัน (Aesthetic Crown Lengthening)
วิธีนี้เป็นการตัดเหงือกร่วมกับการกรอแต่งขอบกระดูกใต้เหงือกออกบางส่วน วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากระดูกฟันนูน และมีเหงือกหนาจนลงมาคลุมฟันมาก ซึ่งทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดขอบเหงือกร่วมกับการกรอลดความสูงของขอบกระดูกฐานเหงือก วิธีนี้จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์แบบถาวรเพราะเหงือกจะไม่งอกกลับขึ้นมาอีก จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และกล้าที่จะยิ้มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ก่อนตัดเหงือกต้องเตรียมตัวยังไง?
1.ทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพภายในช่องปาก หากพบว่ามีปัญหา เช่น ฟันผุ หินปูน ให้ทำการเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อยเสียก่อน
2.ทันตแพทย์จะทำการเอกซเรย์เพื่อประเมินระดับกระดูก
3.ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาตามสุขภาพช่องปากของคนไข้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
4.แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัวกับทันตแพทย์ให้เรียบร้อยก่อนทำการตัดเหงือก
หลังตัดเหงือกดูแลตนเองอย่างไร?
1.หากทันตแพทย์ทำการใช้ยาปิดแผลลักษณะคล้ายหมากฝรั่งให้งดแปรงฟันในบริเวณนี้ และจะให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อบ้วนทำความสะอาดแทน โดยใช้วันละ 2 ครั้ง นานครั้งละ 1 นาที
2.หากมีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
3.ใช้ cotton bud ชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลให้สะอาดที่สุด
4.รับประทานยาฆ่าเชื้อติดต่อกันจนกว่าจะหมด
5.งดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อเหงือกและฟัน เพราะอาจเกิดเลือดออกได้
6.รับประทานอาหารอ่อนและมีอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไป
หลังตัดเหงือกแล้วมีอาการดังต่อไปนี้ควรพบแพทย์ในทันที
- เหงือกบวม
- เหงือกเป็นหนอง
- รู้สึกปวดอย่างรุนแรง
- มีเลือดออกจากเหงือกเป็นเวลานาน
- ตัวร้อน เป็นไข้





