การจัดฟัน (Orthodontics) คือ การปรับแต่งและปรับรูปร่างของฟันและกระดูกกรามในปากให้มีการจัดเรียงฟันที่ถูกต้องสวยงาม เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ของคนไข้ที่จัดฟันให้มีการกัดเคี้ยวที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยการจัดฟันมักถูกทำโดยทันตแพทย์ที่เรียกว่า “ทันตแพทย์จัดฟัน” (Orthodontist) ซึ่งเป็นทันตแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมในการปรับแต่งฟันและระบบโครงสร้างกรามในปาก
การจัดฟันมีหลายวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
- ปรับรูปร่างฟัน: การจัดฟันช่วยปรับแต่งฟันให้มีการเรียงตรงและสวยงาม เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้จัดฟันและรอยยิ้มที่สวยงาม
- ปรับรูปร่างโครงสร้างกราม: การจัดฟันสามารถปรับรูปร่างของโครงสร้างกรามในปาก เช่น การปรับรูปของรากฟันหรือปรับตำแหน่งของขากรรไกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกัดและกินอาหาร
- แก้ไขปัญหาการบกพร่องทางการกัด: การจัดฟันช่วยแก้ไขปัญหาการบกพร่องทางการกัด
- ปรับรูปร่างใบหน้า: บางกรณีการจัดฟันสามารถช่วยปรับรูปร่างใบหน้าของผู้จัดฟันได้ เนื่องจากฟันและโครงสร้างกรามในปากมีผลกับลักษณะใบหน้า
การจัดฟันสามารถทำได้ด้วยการใช้ลวดจัดฟัน (braces) หรือการจัดฟันใส (aligners) เพื่อปรับฟันและโครงสร้างกรามในปากให้เข้ากับตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยการรักษาจัดฟันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของปัญหาทางทันตกรรมของผู้จัดฟัน
การจัดฟันมีกี่แบบ
การจัดฟันในปัจจุบันมี 2 แบบ คือ
1.การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือสามารถเห็นได้ตามคนใกล้ตัวทั่วไปที่จะมีการติดลวดโลหะอยู่ในปากตามจุดต่าง ๆ ของฟัน เพื่อยึดติดบนผิวฟัน ไม่ว่าจะเป็น การจัดฟันที่มียางสีต่าง ๆ ตามความชอบของผู้จัดฟัน ซึ่งการจัดฟันแบบนี้จะเป็นการจัดฟันที่มีเครื่องมือของแพทย์ติดอยู่บนปากเราตลอดเวลาเพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่องหรือจนกว่าฟันจะเข้าที่ปกติ โดยการจัดฟันแบบติดเครื่องมือจะมี 2 ประเภท ดังนี้
1.1 จัดฟันแบบโลหะ (METAL BRACKET)
การจัดฟันแบบโลหะ (METAL BRACKET) จะเป็นการจัดฟันแบบติดแน่นไปกับฟันด้วยการใช้เหล็กจัดฟันติดที่ด้านหน้าของผิวฟัน หลังจากนั้นจึงนำยาง O-Ring มาทำการรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดไปกับลวดจัดฟัน เพื่อให้ฟันเกิดการเรียงตัวและเลื่อนตัวฟันให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
1.2 จัดฟันดามอน
การจัดฟันดามอนจะเป็นการจัดฟันด้วยแบร็คเก็ตชนิด Damon™ System (ดามอนซิสเต็ม) ที่เป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่มีความใหม่ขึ้น โดยจะเป็นการรักษาด้วยการจัดฟันวิธีใหม่ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยางรัดแต่จะใช้กลไกการสไลด์เพื่อจับลวดจัดฟันแทน
2.การจัดฟันแบบที่ไม่ติดเครื่องมือ
การจัดฟันแบบที่ไม่ติดเครื่องมือจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะการจัดฟันประเภทนี้จะไม่มีการติดเครื่องมือที่สร้างความไม่สะดวกสบายให้กับเรา เพราะสามารถถอดเก็บได้เมื่อต้องใช้ปากและฟันในการกินข้าวหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อว่า การจัดฟันใส ซึ่งการจัดฟันใสจะมีราคาที่แพงกว่าการจัดฟันแบบติดเครื่องมือนั้นเอง
โดยการจัดฟันแบบที่ไม่ติดเครื่องมือจะมี 2 ประเภท ดังนี้
2.1 การจัดฟันใส
ปัจจุบันการจัดฟันใสกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมูผู้ที่สนใจในการจัดฟันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ทำให้ไม่เป็นปัญหาในการสังเกตเห็นหรือ เหมาะกับคนที่สนใจจัดฟันที่มีงานเกี่ยวกับการสร้างรอยยิ้ม เช่น งานการแสดง เป็นต้น อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ในการจัดเก็บทำให้เกิดความสะดวกในการจัดฟันให้เข้าที่เป็นอย่างมาก
2.2 จัดฟันใส Invisalign
การจัดฟันแบบ Invisalign จะเป็นการจัดฟันที่มีความเข้ารูปง่ายกว่าการจัดฟันใสแบบทั่วไป แต่จะมีราคาที่สูงกว่าการจัดฟันทั้ง 3 แบบ ที่กล่าวมา
หลังจัดฟันเสร็จควรใส่ รีเทนเนอร์ (RETAINER) เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ฟันของผู้ที่จัดฟันที่มีความสวยงามหลังการจัดฟันอยู่แล้วให้ฟันมีความสวยงามคงที่มากยิ่งขึ้นและกันฟันล้มรวมไปถึงปัญหาฟันล้มกลับมามีปัญหาในอนาคตเป็นต้น
หากมีปัญหาเกี่ยวกับฟันควรเลือกการจัดฟันแบบไหนดี?
การจัดฟันแบบโลหะ
การจัดฟันแบบโลหะเป็นการจัดฟันโดยวิธีทั่ว ๆ ไป โดยเหมาะกับทุกคนและทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งบางกรณีขึ้นอยู่กับสภาพและปัญหาสุขฟันของแต่ละบุคคล โดยจะมีทันตแพทย์ทำการวินิจฉัยเท่านั้น ซึ่งการดัดฟันวิธีนี้จะมีการพบแพทย์ในทุก ๆ เดือนเพื่อทำการเปลี่ยนสียาง แต่ก่อนจะทำการจัดฟันควรทำการปรึกษาแพทย์ทุกกรณีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาอย่างสูงที่สุด
DAMON SYSTEM การจัดฟันระบบดามอน
การจัดฟันแบบ DAMON SYSTEM จะเป็นการจัดฟันที่เหมาะกับคนไข้ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเข้าพบคุณหมอ แต่การจัดฟันด้วยวิธีนี้จะช่วยลดเวลาในการจัดฟันได้เป็นอย่างมาก แต่จำเป็นต้องเข้ามาพบคุณหมอในทุก ๆ สองเดือน แต่มีข้อดีคือลดเวลาในการจัดฟันได้มากกว่าการจัดแบบโลหะถึง 6-8 เดือน
การจัดฟันแบบใส
การจัดฟันตอบโจทย์กับผู้ที่สนใจในการจัดฟันทุกคน เพราะเป็นวิธีการจัดฟันที่ดีและเห็นผลไวที่สุด ซึ่งหากมีงบประมาณในการจัดฟันแนะนำเลย เพราะสามารถถอดเก็บได้และสะดวกต่อการใช้ชีวิตแบบสุด ๆ
การจัดฟันมีข้อดีอย่างไร
- รักษาอาการสบฟันให้กลับมาเป็นปกติ
- ช่วยลดปัญหาฟันผุ และช่วยให้สามารถแปรงฟันเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
- ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- แก้ไขปัญหาโครงสร้างฟันให้เรียงตัวสวยงามมากยิ่งขึ้น
- ช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยและมั่นใจในการยิ้มมากยิ่งขึ้น
- ป้องกันการผิดรูปของฟันและรูปหน้า
- ช่วยปรับปรุงการพูดให้ชัดขึ้น ในผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง
ก่อนจัดฟันควรเตรียมตัวอย่างไร
1.แปรงฟันก่อนมาพบแพทย์
2.เคลียร์ช่องปาก เช่น ขูดหินปูน อุดฟันผุ ถอนฟันที่มีผลต่อการจัดฟัน
หลังจัดฟันดูแลตนเองอย่างไร
1.ไม่รับประทานอาหารที่มีความแข็งมาก หรือเหนียวมาก ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่ายเพื่อป้องกันอาการปวดฟัน และเหล็กจัดฟันหลุด
2.แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้งเพื่อลดการสะสมของกลิ่นปากและคราบเศษอาหาร
3.ใช้แปรงสีฟันเฉพาะของคนจัดฟัน และใช้ไหมขัดฟันเพื่อดูแลรักษาฟันทุกครั้ง
4.ใส่รีเทนเนอร์หลังจากจัดฟันเสร็จ เพื่อคงสภาพฟันอย่างสมบูรณ์ ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัว
5.ควรพบแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อทำการตรวจเช็กสุขภาพฟันให้ดูดีอยู่เสมอ





