“การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ?”
คำตอบสั้น ๆ: ปลอดภัยเมื่อทำอย่างถูกวิธี
การฟอกสีฟันคืออะไร & ทำงานอย่างไร
การฟอกสีฟันเป็นการใช้สารออกซิไดซ์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ให้แตกตัวเป็นอนุมูลออกซิเจนเพื่อเข้าไปสลายเม็ดสีที่ฝังอยู่ในชั้นเคลือบฟันและเนื้อฟันชั้นนอก จึงทำให้ฟันดูสว่างขึ้น โดยไม่ต้องกรอเนื้อฟัน
การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ?
คำตอบ: ปลอดภัยเมื่อทำอย่างถูกวิธีและอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ โดยให้ความเข้มข้นของสารฟอกสีฟันและระยะเวลาที่เหมาะสมกับสภาพฟันและเหงือกของแต่ละคน ผลข้างเคียงหลักคือ เสียวฟันชั่วคราว และ เหงือกระคายเคืองเล็กน้อย ซึ่งมักหายได้เองใน 24–48 ชั่วโมง
ที่ Smile A Lot เราจะตรวจสุขภาพช่องปากก่อน (เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ คราบหินปูน) และอาจถ่ายภาพ/สแกน 3D เพื่อวางแผน จากนั้นจึงเลือกวิธีที่เหมาะ เช่น In-office Whitening (ทำที่คลินิก) หรือ Take-home Whitening (ถาดฟอกสีเฉพาะบุคคล)
เปรียบเทียบวิธีฟอกสีฟัน
| วิธี | ภาพรวม | จุดเด่น | เหมาะกับใคร |
|---|---|---|---|
| ทำที่คลินิก (In-office) | สารฟอกสีความเข้มข้นสูง ทำโดยทันตแพทย์ ใช้ ~45–90 นาที | เห็นผลเร็ว ควบคุมความปลอดภัยได้ดี เหมาะกับผู้ต้องการผลไว | ต้องการผลชัดเจนในเวลาอันสั้น หรือมีคราบสีมาก |
| ถาดฟอกสีที่บ้าน (Take-home) | พิมพ์ปาก/สแกนทำถาดเฉพาะบุคคล ใช้สารเข้มข้นปานกลางที่บ้านตามคำแนะนำ | ค่อย ๆ ขาว ควบคุมเองได้ ประหยัดกว่า สามารถทัชอัพเองภายหลัง | ต้องการค่อย ๆ ปรับสี หรือทำทัชอัพเป็นระยะ |
| ผลิตภัณฑ์ OTC (สตริป/เจล/ยาสีฟัน) | ความเข้มข้นต่ำ ไม่ได้ออกแบบตามสภาพฟันของแต่ละคน | เข้าถึงง่าย ราคาไม่สูง | คราบไม่มาก แต่อาจได้ผลจำกัดและเสี่ยงระคายเคืองถ้าใช้ผิดวิธี |
ใครบ้างที่ควรเลื่อน/หลีกเลี่ยง
- มีฟันผุ เหงือกอักเสบ ครอบฟัน/วัสดุอุดรั่ว — ควรรักษาก่อน
- มีเคลือบฟันสึก รอยร้าว ความเสียวฟันมาก — ต้องประเมินความเสี่ยงเป็นพิเศษ
- แพ้สารฟอกสีฟัน หรือมีแผลในช่องปาก
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร — มักแนะนำให้เลื่อนงานที่ไม่เร่งด่วน
- คราบสีจากยาบางชนิด/ฟันมีพัฒนาการผิดปกติ — อาจต้องใช้ทางเลือกอื่น (วีเนียร์/ครอบฟัน)
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย & วิธีลด
1) เสียวฟันชั่วคราว
- เริ่มด้วยความเข้มข้นที่เหมาะกับคุณ และเว้นวันได้ถ้าเสียว
- ใช้ยาสีฟัน/เจล desensitizing (เช่น ฟลูออไรด์ โพแทสเซียมนิเทรต) ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
2) เหงือกระคายเคือง
- ปกป้องเหงือกด้วยเจลกันเหงือกเมื่อทำที่คลินิก
- ถาดฟอกสีต้องพอดี ไม่ล้นสารออกมาโดนเหงือก
3) สีไม่สม่ำเสมอชั่วคราว
- อาจพบในฟันที่มีโทนสีต่างกันอยู่เดิม มักปรับสม่ำเสมอขึ้นภายในไม่กี่วัน
การดูแลหลังฟอกสีฟันเพื่อให้ขาวนาน
- หลีกเลี่ยง “อาหาร/เครื่องดื่มสีจัด” 24–48 ชม. (ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง แกงเผ็ด ซอสเข้ม) และงดสูบบุหรี่
- แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ
- ทำ touch-up ตามคำแนะนำเมื่อสีเริ่มหม่น
- ทำความสะอาดคราบหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อให้ฟันดูใสและสุขภาพเหงือกดี
เช็กลิสต์เลือกวิธีฟอกสีฟันที่ปลอดภัยสำหรับคุณ
- ตรวจสุขภาพช่องปากก่อน — รักษาฟันผุ/เหงือกอักเสบให้เรียบร้อย
- เลือกวิธีให้เหมาะกับเวลาและงบ — ต้องการผลไว (ทำที่คลินิก) หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป (ถาดที่บ้าน)
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และความเข้มข้นตามแผนแพทย์
- ถาดที่กระชับ ลดสารล้นโดนเหงือก
- วางแผนดูแลหลังทำ และตารางทัชอัพเพื่อยืดผลลัพธ์
FAQ: คำถามพบบ่อย
ต้องฟอกสีฟันกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
ทำที่คลินิก 1 ครั้งมักเห็นความสว่างขึ้นทันที ส่วนถาดที่บ้านใช้ต่อเนื่องตามแผน 1–2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ขึ้นกับสีฟันตั้งต้นและพฤติกรรม
ฟอกสีฟันทำให้ครอบฟัน/วัสดุอุดเปลี่ยนสีด้วยไหม?
ไม่เปลี่ยนสีวัสดุอุด ครอบฟัน วีเนียร์ ดังนั้นอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนวัสดุบางซี่หลังฟอกเพื่อให้สีสม่ำเสมอ
ทำเองที่บ้านโดยไม่พบทันตแพทย์ได้ไหม?
ไม่แนะนำให้เริ่มเองโดยไม่มีการประเมิน เพราะอาจทำให้ระคายเคืองหรือเสียวฟันมาก ควรให้แพทย์ตรวจและออกแบบแผนที่เหมาะสมก่อน
เริ่มฟอกสีฟันอย่างปลอดภัยกับทีมเฉพาะทางที่ Smile A Lot
ทุกเคสได้รับการประเมินโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ใช้ระบบสแกนดิจิทัลแทนการพิมพ์ปาก ลดความไม่สบายและเพิ่มความแม่นยำ




