การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ?






การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ? เผยข้อเท็จจริง วิธีที่ปลอดภัย และข้อควรระวัง | Smile A Lot Dental Clinic









ฟอกสีฟัน

“การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ?”
คำตอบสั้น ๆ: ปลอดภัยเมื่อทำอย่างถูกวิธี

อัปเดตล่าสุด: · ประมาณเวลาอ่าน 6–7 นาที

การฟอกสีฟันคืออะไร & ทำงานอย่างไร

การฟอกสีฟันเป็นการใช้สารออกซิไดซ์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ให้แตกตัวเป็นอนุมูลออกซิเจนเพื่อเข้าไปสลายเม็ดสีที่ฝังอยู่ในชั้นเคลือบฟันและเนื้อฟันชั้นนอก จึงทำให้ฟันดูสว่างขึ้น โดยไม่ต้องกรอเนื้อฟัน

สรุปง่าย ๆ: ฟอกสี = สลายเม็ดสี “จากด้านใน” ของฟัน ไม่ใช่การขัดผิวฟันออก

การฟอกสีฟันปลอดภัยจริงหรือ?

คำตอบ: ปลอดภัยเมื่อทำอย่างถูกวิธีและอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ โดยให้ความเข้มข้นของสารฟอกสีฟันและระยะเวลาที่เหมาะสมกับสภาพฟันและเหงือกของแต่ละคน ผลข้างเคียงหลักคือ เสียวฟันชั่วคราว และ เหงือกระคายเคืองเล็กน้อย ซึ่งมักหายได้เองใน 24–48 ชั่วโมง

ที่ Smile A Lot เราจะตรวจสุขภาพช่องปากก่อน (เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ คราบหินปูน) และอาจถ่ายภาพ/สแกน 3D เพื่อวางแผน จากนั้นจึงเลือกวิธีที่เหมาะ เช่น In-office Whitening (ทำที่คลินิก) หรือ Take-home Whitening (ถาดฟอกสีเฉพาะบุคคล)

เปรียบเทียบวิธีฟอกสีฟัน

วิธี ภาพรวม จุดเด่น เหมาะกับใคร
ทำที่คลินิก (In-office) สารฟอกสีความเข้มข้นสูง ทำโดยทันตแพทย์ ใช้ ~45–90 นาที เห็นผลเร็ว ควบคุมความปลอดภัยได้ดี เหมาะกับผู้ต้องการผลไว ต้องการผลชัดเจนในเวลาอันสั้น หรือมีคราบสีมาก
ถาดฟอกสีที่บ้าน (Take-home) พิมพ์ปาก/สแกนทำถาดเฉพาะบุคคล ใช้สารเข้มข้นปานกลางที่บ้านตามคำแนะนำ ค่อย ๆ ขาว ควบคุมเองได้ ประหยัดกว่า สามารถทัชอัพเองภายหลัง ต้องการค่อย ๆ ปรับสี หรือทำทัชอัพเป็นระยะ
ผลิตภัณฑ์ OTC (สตริป/เจล/ยาสีฟัน) ความเข้มข้นต่ำ ไม่ได้ออกแบบตามสภาพฟันของแต่ละคน เข้าถึงง่าย ราคาไม่สูง คราบไม่มาก แต่อาจได้ผลจำกัดและเสี่ยงระคายเคืองถ้าใช้ผิดวิธี
ทิป: แม้ทำที่บ้านก็ควรอยู่ภายใต้แผนจากทันตแพทย์ เพื่อขาวอย่างปลอดภัยและคงผลลัพธ์ได้นาน

ใครบ้างที่ควรเลื่อน/หลีกเลี่ยง

  • มีฟันผุ เหงือกอักเสบ ครอบฟัน/วัสดุอุดรั่ว — ควรรักษาก่อน
  • มีเคลือบฟันสึก รอยร้าว ความเสียวฟันมาก — ต้องประเมินความเสี่ยงเป็นพิเศษ
  • แพ้สารฟอกสีฟัน หรือมีแผลในช่องปาก
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร — มักแนะนำให้เลื่อนงานที่ไม่เร่งด่วน
  • คราบสีจากยาบางชนิด/ฟันมีพัฒนาการผิดปกติ — อาจต้องใช้ทางเลือกอื่น (วีเนียร์/ครอบฟัน)

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย & วิธีลด

1) เสียวฟันชั่วคราว

  • เริ่มด้วยความเข้มข้นที่เหมาะกับคุณ และเว้นวันได้ถ้าเสียว
  • ใช้ยาสีฟัน/เจล desensitizing (เช่น ฟลูออไรด์ โพแทสเซียมนิเทรต) ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

2) เหงือกระคายเคือง

  • ปกป้องเหงือกด้วยเจลกันเหงือกเมื่อทำที่คลินิก
  • ถาดฟอกสีต้องพอดี ไม่ล้นสารออกมาโดนเหงือก

3) สีไม่สม่ำเสมอชั่วคราว

  • อาจพบในฟันที่มีโทนสีต่างกันอยู่เดิม มักปรับสม่ำเสมอขึ้นภายในไม่กี่วัน

การดูแลหลังฟอกสีฟันเพื่อให้ขาวนาน

  • หลีกเลี่ยง “อาหาร/เครื่องดื่มสีจัด” 24–48 ชม. (ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง แกงเผ็ด ซอสเข้ม) และงดสูบบุหรี่
  • แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ
  • ทำ touch-up ตามคำแนะนำเมื่อสีเริ่มหม่น
  • ทำความสะอาดคราบหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อให้ฟันดูใสและสุขภาพเหงือกดี

เช็กลิสต์เลือกวิธีฟอกสีฟันที่ปลอดภัยสำหรับคุณ

  1. ตรวจสุขภาพช่องปากก่อน — รักษาฟันผุ/เหงือกอักเสบให้เรียบร้อย
  2. เลือกวิธีให้เหมาะกับเวลาและงบ — ต้องการผลไว (ทำที่คลินิก) หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป (ถาดที่บ้าน)
  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และความเข้มข้นตามแผนแพทย์
  4. ถาดที่กระชับ ลดสารล้นโดนเหงือก
  5. วางแผนดูแลหลังทำ และตารางทัชอัพเพื่อยืดผลลัพธ์

FAQ: คำถามพบบ่อย

ต้องฟอกสีฟันกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

ทำที่คลินิก 1 ครั้งมักเห็นความสว่างขึ้นทันที ส่วนถาดที่บ้านใช้ต่อเนื่องตามแผน 1–2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ขึ้นกับสีฟันตั้งต้นและพฤติกรรม

ฟอกสีฟันทำให้ครอบฟัน/วัสดุอุดเปลี่ยนสีด้วยไหม?

ไม่เปลี่ยนสีวัสดุอุด ครอบฟัน วีเนียร์ ดังนั้นอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนวัสดุบางซี่หลังฟอกเพื่อให้สีสม่ำเสมอ

ทำเองที่บ้านโดยไม่พบทันตแพทย์ได้ไหม?

ไม่แนะนำให้เริ่มเองโดยไม่มีการประเมิน เพราะอาจทำให้ระคายเคืองหรือเสียวฟันมาก ควรให้แพทย์ตรวจและออกแบบแผนที่เหมาะสมก่อน

เริ่มฟอกสีฟันอย่างปลอดภัยกับทีมเฉพาะทางที่ Smile A Lot

ทุกเคสได้รับการประเมินโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ใช้ระบบสแกนดิจิทัลแทนการพิมพ์ปาก ลดความไม่สบายและเพิ่มความแม่นยำ

© Smile A Lot Dental Clinic — ทำความสะอาด ปลอดเชื้อ ที่จอดรถสะดวก · บทความนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ ไม่ทดแทนการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ดูแลของคุณ






Share it :

จองคิวพบคุณหมอ